หลังจาก Work From Home มาหลายเดือนบางคนก็เป็นปี หลายคนก็มีอาการเครียดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพราะถูกจำกัดพื้นที่ไม่ให้ออกไปไหน บ้านที่เคยเป็นพื้นที่พักผ่อนก็กลายเป็นออฟฟิศหลังที่ 2 ซึ่งต้อง Force ตัวเองให้ทำงานหนักขึ้น
แม้จะช่วยประหยัดค่าเดินทางได้ แต่ก็ยังไม่สะดวกสบายเท่ากับการทำงานที่ออฟฟิศ ไม่ว่าจะเป็นสัญญาณอินเทอร์เน็ตที่ช้ากว่าเต่าคลาน มุมนั่งทำงานไม่สบายจนกระดูกสันหลังร้าว รวมถึงการสื่อสารที่ต้องใช้วิดีโอคอลตลอดเวลา ซึ่งก็ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเข้าใจเนื้อหาของงานที่อธิบายมากแค่ไหน แถมยังกัดกินเวลาทำงานไปอีก ยังไม่รวมปัจจัยอื่นๆ อีกมากมายที่ทำให้เราเครียด ปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้ เพราะไม่รู้ว่า Covid-19 จะหมดไปเมื่อไหร่ งั้นตอนนี้มาแก้เครียดด้วยตัวเองกันไปก่อนนะ
แก้เครียดยังไง เมื่อต้องทำงานที่บ้าน
1. ไม่ทำงานบนเตียง
Work From Bed ทำให้สมองลืมว่าต้องนอนแม้อยู่บนเตียง แม้จะสะดวกสบาย แต่กลับทิ้งผลกระทบร้ายแรงไว้ให้กับสุขภาพของเราทั้งในเชิงสรีรศาสตร์และเชิงจิตวิทยา และแม้จะไม่รู้สึกเจ็บป่วยในวันนี้แต่ Work From Bed อาจสร้างผลกระทบสะสมที่อาจจะแสดงอาการอีกทีเมื่อมีอายุมากขึ้นและอาจกลายเป็นผลกระทบเรื้อรัง
ยิ่งนอนหลับไม่เป็นเวลาก็ยิ่งทำให้อ่อนล้า หมดสมาธิ ขาดความสร้างสรรค์ และไร้พลังในการทำงาน ที่นี้เราก็จะเครียดเพราะปั่นงานไม่ทัน แล้วต้องมาปวดหัวเพราะนอนน้อยจากการนั่งปั่นงานจนดึกดื่น ซึ่งมันควรจะเป็นเวลาพัก แถมตอนเช้าต้องแหกขี้ตาตื่นมาคอนคอลกับทีมในบริษัท แต่สภาพหมดอาลัยตายอยาก วันทั้งวันได้เครียดจนไม่ได้งาน เพราะฉะนั้นหามุมนั่งทำงานใหม่ซะ
2. มีต้นไม้เล็กๆ วางที่โต๊ะทำงาน
ขณะที่เรากำลังทำงานต้องใช้สมองคิดและตื่นตัวตลอดเวลา หากได้พักสายตาหน้าจอคอมมองไปต้นไม้สีเขียวบนโต๊ะ เป็นสีโทนเย็น จะได้ความรู้สึกสดชื่น สบายตา ผ่อนคลาย ปลอดภัย ธรรมชาติเป็นสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์ การชำเลืองมองต้นไม้สวยๆ ช่วยทำให้คิดอีกด้านให้เป็นเรื่องบวก แถมตื่นมาตอนเช้าได้รดน้ำ ได้ดูแล ได้เห็นว่ามันเติบโตไปยังไงบ้าง นี่แหละคือสิ่งดี ๆ ในแต่ละวันที่ช่วยให้เราหายเครียดได้นะ
3. หาเก้าอี้ที่นั่งสบาย
ตอนนี้หลายคนต้องทำงานที่บ้านแทน แน่นอนว่าการทำงานที่บ้านย่อมไม่สะดวกสบายเท่าการทำงานที่ออฟฟิศ เพราะที่บ้านไม่ค่อยมีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับการทำงานเท่าไหร่นัก อาการปวดคอ ไหล่ และกระดูกสันหลัง เอนตัวลงที่นอนทีไรก็ได้ยินเสียงกระดูกดังก๊อก! ก๊อก! ก๊อก! อย่ามองว่าเป็นเรื่องเล็กเชียว ความเจ็บปวดเหล่านี้อาจทำให้เกิดภาวะเครียดได้ แต่เพื่อทำงานที่บ้านได้สบายมากที่สุด การมีเก้าอี้ทำงานดีๆ สักตัว ก็ถือว่าช่วยให้นั่งทำงานสบายมากขึ้น สร้างบรรยากาศดีๆ ในการทำงานที่บ้าน ซึ่งสามารถเลือกซื้อเก้าอี้ทำงานคุณภาพดีหลากหลายรุ่น ราคาไม่แพง ผ่านทางออนไลน์
4. แชท หรือ วิดีโอคอลกับเพื่อน
เครียดตอนทำงานก็ไม่รู้จะไปบ่นให้ใครฟัง สำหรับใครที่ตัวคนเดียวก็อาจรู้สึกเหงาใจ การไม่ได้พบปะผู้คนในระยะเวลานี้สามารถทำให้คุณรู้สึกซึมเศร้าได้ ลองวิดีโอคอลคุยกับคนอื่นๆ หรือเพื่อนที่ออฟฟิศเพื่อถามข่าวคราว สารทุกข์สุขดิบ ในทางจิตวิทยาบอกไว้ว่า ถ้าเราเครียด การเล่าหรือพูดคุยกับผู้อื่นจะช่วยให้เรารู้สึกดีขึ้น เพราะเราได้ระบายความเครียดออกไปทุกๆ วัน จะได้ไม่เครียดสะสม แต่ในวิกฤติสถานการณ์ของ Covid – 19 ครั้งนี้ ทำให้องค์กรและพนักงานต้องปรับตัว เพื่อตอบสนองต่อสถานการณ์ฉุกเฉินและตอบสนองไลฟ์สไตล์การทำงานยุคใหม่ แอพพลิเคชั่นสื่อสารภายในองค์กรที่เหมาะกับช่วง Work From Home ถือเป็นสิ่งสำคัญเพื่อช่วยให้การทำงานที่บ้านมีความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น นอกจากจะได้งานที่ดีมีประสิทธิภาพแล้วยังจะช่วยให้ลดความเสี่ยงและป้องกันการติดเชื้อไวรัสโคโรนา จากการพบปะผู้คน ประหยัดทั้งเวลาเดินทาง แถมยังลดใช้พลังงานได้อีกทางหนึ่งด้วย
5. ให้รางวัลตัวเองหลังทำงานเสร็จ
ใคร Work from Home แล้วเกิดอาหาร เบื่อ เศร้า เหงา เซ็ง ลองเลือกกิจกรรมคลายเครียดหลังจากทำงานเสร็จแล้ว ลองให้รางวัลตัวเองดู อาจจะเป็นการดูซีรี่ย์เรื่องโปรดสักเรื่อง เล่นเกมสักหน่อย สั่งอาหารอร่อยๆ มากิน ไม่ก็เป็นเชฟทำอาหารเองเสียเลย หลายคนที่ปล่อยปละละเลยอาหารที่ตัวเองรับประทาน จังหวะนี้ถือเป็นช่วงเวลาดีๆ ที่ได้ใส่ใจในเมนูอาหารแต่ละมื้อแล้วนะคะ